วันพฤหัสบดีที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

เสื้อผ้าแฟชั่น Dress


Lovely Denim Sweet Dress ชุดเดรสแฟชั่นเกาหลีเนื้อผ้าคอตตอน
สียีนส์ เนื้อนิ่ม ช่วงบนเย็บซ้อนแต่งด้วยผ้าลูกไม้สีขาว ชุดมีซิปซ่อนด้านหลัง
แบบน่ารักมาก ๆ
วงแขนกว้าง 18 นิ้ว 
อกกว้าง 35 นิ้ว  เอวกว้าง 29 นิ้ว
ชุดยาว 33 นิ้ว




Romantic Feminine Dress ชุดเดรสแฟชั่นเกาหลี แบรนด์ EJOYNET
ช่วงบนเป็นผ้ายืดคุณภาพดีสีดำ ยืดได้เยอะมาก ผ้าไม่บาง
เอวติดยางยืดแผ่นสีดำ กระโปรงเป็นผ้าชีฟองสีฟ้า เนื้อผ้าดี
มีซับในเรียบร้อย แบบสวยหวานดีค่ะ
อกกว้าง 35-39 นิ้ว
เอวกว้าง  22-35 นิ้ว
ยาว 49 นิ้ว


Sexy Party Slim Dress  ชุดเดรสแฟชั่นเกาหลี เนื้อผ้าคอตตอนยืด
เนื้อนิ่มทิ้งตัว ไม่บาง ดีไซน์เซ็กซี่เข้ารูป คอวี ด้านข้างเย็บขมวดย่นๆ
คอเย็บแต่งเลื่อม
อกกว้าง 30-35 นิ้ว
สะโพกกว้าง 35-39 นิ้ว
ชุดยาว 33.5 นิ้ว



Elegant Lady Rotro bow Dress ชุดเดรสแฟชั่นญี่ปุ่น แบรนด์ OZHUONI
เนื้อผ้าชีฟองคุณภาพดีมาก เนื้อผ้านิ่ม ทิ้งตัว สีกาแฟ ผ่าหน้าติดกระดุม
เอวติดยางยืด ช่วงกระโปรงอัดพลีท
 M ไหล่กว้าง 15 นิ้ว  ต้นแขนกว้าง 19 นิ้ว  แขนยาว 23.5 นิ้ว
อกกว้าง 32-34 นิ้ว   เอวกว้าง 22-32 นิ้ว  ชุดยาว 33.5 นิ้ว
L ไหล่กว้าง 15 นิ้ว  ต้นแขนกว้าง 19 นิ้ว  แขนยาว 23.5 นิ้ว
อกกว้าง 34-36 นิ้ว   เอวกว้าง 22-34 นิ้ว  ชุดยาว 33.5 นิ้ว

แหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ





หัวหินอยู่ห่างจากกรุงเทพฯ ไปทางทิศใต้ประมาณ 200 กิโลเมตร อยู่ติดชายฝั่งทางทิศตะวันตกของอ่าวไทย จัดได้ว่าเป็นสถานที่พักผ่อนตากอากาศริมทะเลที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศไทย หัวหินได้ถูกเปลี่ยนแปลงจากแต่เดิมที่เป็นชุมชนชาวประมง มาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในปี 2463 และเริ่มมีการก่อสร้างทางเดินรถไฟสถานีหัวหินในพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 (ปี พ.ศ. 2453-2468) รวมถึงพระราชวังไกลกังวลในรัชกาลที่ 7 ปี พ.ศ. 2469 พระราชวังแห่งนี้ได้ถูกใช้เป็นที่ประทับรับรองของพระราชวงศ์ เมื่อมีการเสด็จเยือนหัวหิน
 
ปัจจุบันหัวหินเป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเป็นจำนวนมาก นอกจากสถานที่ท่องเที่ยวสวยงามที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวแล้ว หัวหินยังมีโรงแรมหรูระดับ 5 ดาวหลายแห่งซึ่งตั้งอยู่ใจกลางเมืองหัวหินพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันไว้คอยต้อนรับนักท่องเที่ยว ให้เข้ามาสัมผัสแหล่งอารยธรรม ประเพณีของไทยที่มีตลอดทั้งปี เช่น เทศกาลตรุษจีน เทศกาลสงกรานต์ ประเพณีวันลอยกระทง มหกรรมดนตรีหัวหินแจ๊สเฟสติวัล หัวหิน-ชะอำกอล์ฟเฟสติวัล และการแข่งขันครั้งสำคัญ “การแข่งขันหัวหินโปโลช้างชิงถ้วยพระราชทาน

เพลินวาน หัวหิน
     คำว่า เพลินวานมาจาก "Play and Learn และคำในวันวาน"จาก จุดเริ่มต้นที่มาจากความรักและคิดถึงหัวหินในวันก่อน เพลินวานจึงถือกำเนิดขึ้น เพื่อให้เป็นศูนย์กลางจุดหมายการเดินทางแห่งใหม่ของคนหัวหินและนักท่อง เที่ยวที่มาเยือน เพลินวานคือ... “ศูนย์รวมความสุข สถานที่... หยุดเวลาในอดีตไว้ เพื่อเล่าขานเรื่องราวมากมายของวิถีหัวหินกาลก่อน ...สู่กาลปัจจุบัน”
   เพลินตากับแฟชั่นเปรี้ยวๆ...วันวาน ห้องเสื้อไฉไลหอมกลิ่นไอ รสละมุนของ กาแฟคลาสสิค
ข้าวอุ่น แกงร้อน.. อาหารเลื่องชื่อตำรับหัวหิน

ร้อนนัก...พักร้อน ลิ้มรสหวานเย็นให้ชื่นใจของเล่นวัยเด็ก...ความสุขเล็ก ๆ ที่ไม่เคยลืมเลือน
เลือก ซื้อเทปคาสเซทเพลงเพราะๆ ของวันวานวิดีโอหนังรักวัยหวาน ใบปิดหนังดังรวมดารา...ให้เลือกสะสมย้อนยุคบรรยากาศเก่าๆ ดูหนังดัง...กางแปลงโฟโต้...กับมุมเก่าๆชวนให้คิดถึงพร้อมเก็บภาพเป็นที่ ระลึกอีกครั้ง...กันลืม แล้วแวะส่งโปสการ์ดหาเพื่อนที่ไม่ได้มาให้อิจฉาเล่น
     เพลินวานเปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่ 11.00-24.00 น. ไม่เสียค่าเข้าชมแต่อย่างใด

การเดินทาง
-หากขับรถส่วนตัวมาก็วิ่งตรงมาเส้นถนนเพชรเกษมมาเรื่อยๆ index หัวหิน ก็ขับตรงไปอีกซัก 500 เมตร หลังจากนั้นก็เตรียมกลับรถไปฝั่งตรงข้าม เพลินวานตั้งอยู่ริมถนนใหญ่ฝั่งตรงข้ามพระราชวังไกลกังวลค่ะ ส่วนที่จอดรถให้ขับเลยร้านไปอีกนิด จะมีป้ายบอกว่าที่จอดรถเพลินวาน ก็เลี้ยวเข้าไปได้เลยค่ะ จอดฟรีไม่เสียเงิน
- สำหรับใครที่ไม่รถ ก็มาง่ายๆ นั่งรถตู้สายหัวหิน ที่เซ็นจูรี่ บอกคนขับให้จอดแถวเพลินวานก่อนถึงพระราขวังไกลกังวล หลังจากนั้นก็ข้ามถนนมาได้เลย




สถานนีรถไฟหัวหิน
หนึ่งในสถานีรถไฟที่เก่าแก่ที่สุดของไทย สิ่งที่เป็นเอกลักษณ์ของสถานีรถไฟแห่งนี้คือพลับพลาในแบบสถาปัตยกรรมไทยเด่นสะดุดตา ซึ่งได้ย้ายมาจากพระราชวังสนามจันทน์ใ สร้างในสมัยรัชกาลที่ 6 มีความสวยงามทางด้านสถาปัตย์และศิลป์ ซึ่งใครที่เห็นจะรู้สึกประทับใจ สถานียังคงเปิดให้บริการจวบจนทุกวันนี้
ใกล้บริเวณสถานีมีพลับพลาสมัยก่อน และหัวรถจักรอยู่ตรงข้ามสถานี


  


ตลาดน้ำหัวหิน
อ.หัวหิน  จ.ประจวบคีรีขันธ์ 

 

ตลาดน้ำหัวหิน แหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ในเมืองหัวหิน พื้นที่กว่า 50 ไร่

ตลาดน้ำหัวหิน นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติจะได้เพลิดเพลินไปกับทัศนียภาพอันงด งาม เดินชมตลาดน้ำหัวหิน นั่งเรือพายชมทัศนียภาพ 2 ฝั่งน้ำ สัมผัสกับวิถีชีวิตความเป็นอยู่ และ การค้าขายทางน้ำ ตระการตากับร้านค้าเรือนไทยไม้สักทั้งหลังที่สวยงาม โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ของตลาดน้ำ ... ตลาดน้ำหัวหิน

ตลาดน้ำหัวหิน จุดเด่นเป็นงานสถาปัตยกรรม โดยการนำการออกแบบหลังคาแบบกระเบื้องแผ่นเรียบและใช้เชิงชายลายฉลุเป็น บรรยากาศแบบหัวหินในอดีต อีกทั้งร้านค้าที่หลากหลาย
 

แมคโดนัลด์

ประวัติแมคโดนัลด์




แมคโดนัลด์ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2491 (ค.ศ.​1948) โดยพี่น้องดิ๊กและแมคโดนัลด์เปิดเป็นร้านแฮมเบอร์เกอร์ชื่อว่า "แมคโดนัลด์" เป็นแบบไดร์ฟทรูในซานเบอร์นาร์ดิโน ซึ่งเป็นเมืองเล็กๆในรัฐแคลิฟอร์เนีย แต่เริ่มนำระบบการบริการอย่างรวดเร็วเข้ามาใช้ในปี พ.ศ. 2491 ภายหลังทั้งสองได้ขายกิจการให้กับ นายเรย์มอนด์ อัลเบิร์ด คร็อก เพื่อนำไปขยายสาขา และเป็นต้นกำเนิดของร้านอาหารแบบฟาสต์ฟู้ดตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา อย่างไรก็ตามปัจจุบันบริษัทแมคโดนัลด์ได้นับเอาการเปิดร้านแฟรนไชส์สาขาแรก เมื่อปี พ.ศ. 2498 (ค.ศ.​1955) เป็นวันก่อตั้งบริษัท
ปัจจุบันแมคโดนัลด์มีสาขากว่า 30,000 สาขาใน 121 ประเทศทั่วโลกรวมถึงประเทศไทย ให้บริการลูกค้ามากกว่า 50 ล้านคนต่อวัน เครือแมคโดนัลด์ยังประกอบธุรกิจร้านอาหารยี่ห้ออื่น และธุรกิจอื่นๆ นอกเหนือไปจากร้านอาหาร เช่น ร้านสะดวกซื้อ เป็นต้น มีผลประกอบการ 20.46 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และกำไรสุทธิ 2.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี (ตัวเลขปี พ.ศ. 2548)
รูปแบบทั่วไปของร้านแมคโดนัลด์คือแบบเคาเตอร์และแบบ drive-through หรือขับรถเข้าไปซื้อโดยไม่ต้องลงจากรถ อาหารหลักที่ขายทั่วไปคือ แฮมเบอร์เกอร์ ชีสเบอร์เกอร์ เฟรนช์ฟราย ไก่ทอด สลัด ชุดอาหารเช้า ชุดอาหารสำหรับเด็กชื่อ แฮปปี้มีล และของหวานอีกหลายชนิด เช่น ไอศกรีม เป็นต้น
แมคโดนัลด์กลายเป็นสัญลักษณ์ของวัฒนธรรมอเมริกันและทุนนิยม การเปิดสาขาของร้านแมคโดนัลด์ในประเทศต่างๆ มักถูกมองเป็นการบุกรุกของวัฒนธรรมอเมริกัน นอกจากนี้อาหารของแมคโดนัลด์ยังได้รับการวิจารณ์ในเรื่องผลกระทบต่อสุขภาพ อีกด้วย

แมคโดนัลด์ในประเทศไทย

แมคโดนัลด์เปิดสาขาแรกในประเทศไทยเมื่อ พ.ศ. 2528 โดยนายเดช บุลสุข ซึ่งประทับใจในอาหารของแมคโดนัลด์สมัยเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน AFS ที่สหรัฐอเมริกา นับเป็นประเทศที่ 35 และสาขาแรกอยู่ที่ห้างโซโก หรืออมรินทร์พลาซ่าในปัจจุบัน
แมคโดนัลด์สาขาถนนราชดำเนิน ติดกับโรงเรียนสตรีวิทยา เป็นแมคโดนัลด์สาขาเดียวในโลกที่ป้ายหน้าร้านใช้พื้นสีน้ำตาล แทนที่จะเป็นสีแดงเหมือนที่อื่น ๆ เนื่องจากเหตุผลเรื่องการรักษาภาพลักษณ์สถาปัตยกรรมของอาคารริมถนนราชดำเนิน[1]
เมื่อสิ้นปี พ.ศ. 2552 แมคโดนัลด์มีสาขาทั้งสิ้น 115 สาขา บริการ 24 ชั่วโมง 44 สาขา, บริการอาหารเช้า 86 สาขา, Delivery 71 สาขา, Mc Cafe 43 สาขา, Drive Thru 15 สาขา และ Kios ไอศกรีมขนมหวาน 41 สาขา

 

สาขาแมคโดนัลด์ในกรุงเทพมหานคร

  • Metro Fashion
  • บิ๊กฃี เอ็กฃ์ตร้า ลำลูกกา
  • เดอะมอลล์ บางกะปิ ชั้น 2
  • เดอะ เฃอร์เคิล ราชพฤกษ์
  • แพลทินั่ม แฟชั่นมอลล์
  • ฟังกี้ วิลล่า
  • ชิบูญ่า 19
  • แมกซ์ แวลู นวมินทร์
  • แมกซ์ แวลู หลักสี่
  • เยส บางพลี
  • บิ๊กซี เอ็กซ์ตร้า พระราม 4
  • สาขารอยัลการ์เด้นพลาฃ่า เจริญนคร
  • สาขาชิดลม
  • สาขาซีคอนสแควร์
  • สาขาซีพี สีลม
  • สาขาเซนต์คาเบรียล
  • สาขาเซ็นทรัล บางนา
  • เมเจอร์ฮอลลีวูด รามคำแหง
  • กาญจนาภิเษก-กัลปพฤกษ์
  • เจ-อเวนิว ทองหล่อ
  • ดิ อเวนิว รัชโยธิน
  • พาต้า ปิ่นเกล้า
  • บิ๊กซี เอ็กซ์ตร้า สุขาภิบาล 3
  • พาซิโอ ลาดกระบัง
  • พีทีที นานา
  • ปตท บางนา
  • เอสฃีบี พาร์ค
  • แมคคาเฟ่ อัมรินทร์ พลาซ่า
  • สาขาชิดลม
  • สาขาซีพี สีลม
  • สาขาเซ็นเตอร์วัน
  • สาขาเซ็นทรัล พระราม 2
  • สาขาเซ็นทรัล พระราม 3
  • สาขาเซ็นทรัลลาดพร้าว
  • สาขาเซ็นทรัลเวิลด์ พลาซ่า ชั้น 6
  • สาขาเซ็นทรัลเวิลด์ พลาซ่า
  • สาขาดิโอลด์สยาม
  • สาขาเดอะมอลล์ ท่าพระ
  • สาขาเดอะมอลล์ บางกะปิ
  • สาขาเดอะมอลล์ บางแค
  • สาขาเดอะมอลล์ รามคำแหง
  • สาขาตั้งฮั่วเส็ง ธนบุรี
  • สาขาโตคิว มาบุญครอง
  • สาขาถนนข้าวสาร
  • สาขาบิ๊กซี ราชดำริ
  • สาขาปิยรมย์ พาร์ค
  • สาขาพหลโยธิน เพลส
  • สาขาพาต้า ปิ่นเกล้า
  • สาขาเพลินจิต 2
  • สาขาแฟชั่นไอส์แลนด์
  • สาขามาบุญครอง
  • สาขาเมเจอร์ ฮอลลีวูด
  • สาขาเมเจอร์ฯ ปิ่นเกล้า
  • สาขาเมเจอร์ฯ รัชโยธิน
  • สาขาเมเจอร์ฯ สุขุมวิท
  • สาขาแมกซ์ แวลู ศรีนครินทร์
  • สาขาราชดำเนิน
  • สาขาโรงพยาบาลพญาไท 1
  • สาขาโรงพยาบาลศิริราช
  • สาขาโรบินสัน บางรัก
  • สาขาโรบินสัน รัชดาฯ
  • สาขาโรบินสัน สีลม
  • สาขาโรบินสัน สุขุมวิท
  • สาขาโลตัส แจ้งวัฒนะ
  • สาขาโลตัส บางกะปิ
  • สาขาโลตัส ประชาชื่น
  • สาขาโลตัส พระราม 3
  • สาขาโลตัส พระราม 4
  • สาขาโลตัส รามอินทรา
  • สาขาโลตัส สุขุมวิท 50
  • สาขาโลตัส หลักสี่
  • สาขาสาทรนคร
  • สาขาอัมรินทร์ พลาซ่า
  • สาขาอินทรา สแควร์
  • สาขาอิมพีเรียล ลาดพร้าว
  • สาขาเอสโซ่ พระราม 4
  • สาขาเอสพละนาด รัชดาฯ
  • สาขาเอสเอฟ ซีนีมา ซิตี้ (MBK ชั้น 7)
  • สาขาไอที มอลล์ ฟอร์จูน ทาวน์
  • สุพรีม สามเสน
  • อมอรินี สวนสยาม
  • แอท พาร์ค ทาวน์ อิน ทาวน์
  • ไอ เพลส ลาดกระบัง
  • ลาดพร้าว 116
  • เอ็ม ปาร์ค พระราม 2 ฝั่งเดียวกับบิ๊กฃี พระราม 2
  • โรงพยาบาลกรุงเทพ บางกอก พลาซ่า
  • สาขาเฃ็นทรัล พระราม 9
  • พาซิโอ สุขาภิบาล 3
  • พหลโยธิน-รังสิต (ขาออก)

สาขาแมคโดนัลด์ในส่วนภูมิภาค

  • สาขาไดอาน่า หาดใหญ่ สงขลา (Drive Thru 24hr)
  • สาขากระบี่
  • สาขาเขาหลักพลาซ่า พังงา
  • สาขาจังซีลอน 1 ภูเก็ต
  • สาขาจังซีลอน 2 (สาย 3) ภูเก็ต
  • สาขาเฉวง การ์เด้น สมุย 2
  • สาขาเซ็นทรัลพลาซา สุราษฎร์ธานี ชั้น 1 (ตรงข้าม Starbucks)
  • สาขาเซ็นทรัลพลาซา ขอนแก่น ชั้น G
  • สาขาเซ็นทรัลพลาซา ชลบุรี
  • สาขาเซ็นทรัลพลาซา เชียงราย ชั้น 1
  • สาขาเซ็นทรัลเฟสติวัล พัทยา บีช 1
  • สาขาเซ็นทรัลเฟสติวัล พัทยา บีช 2
  • สาขาเซ็นทรัลพลาซา เชียงใหม่ แอร์พอร์ต ชั่น G ฝั่ง Aquarium
  • สาขาเซ็นทรัลพลาซา เชียงใหม่ แอร์พอร์ต (ชั้น 4 หน้าโรงภาพยนตร์เมเจอร์)
  • สาขาเดอะมอลล์ งามวงศ์วาน (ชั้น G)
  • สาขาเดอะมอลล์ งามวงศ์วาน (ชั้น 6)
  • สาขาเดอะมอลล์ โคราช
  • สาขาเดอะ มาร์เก็ต วิลเลจ เขาใหญ่ นครราชสีมา
  • สาขาปาลิโอ เขาใหญ่ นครราชสีมา
  • สาขาทไวไลท์ ออฟ บางลา ภูเก็ต
  • สาขาโลตัส อมตะนคร
  • สาขาบิ๊กฃี นวนคร
  • สาขาบิ๊กซี ติวานนท์
  • สาขาบิ๊กซี เอ็กซ์ตร้า คลอง 4
  • สาขาบิ๊กซี เอ็กซ์ตร้า เชียงใหม่
  • สาขาพัทยา ดรากอน
  • สาขาพัทยากลาง
  • สาขาพีทีที พระราม 2 กม. 35
  • สาขาพีทีที มอเตอร์เวย์ (ฝั่งขาเข้า)
  • สาขาพีทีที มอเตอร์เวย์ (ฝั่งขาออก)
  • สาขายูดีทาวน์ อุดรธานี (Drive Thru 24hr)
  • สาขาอุบลสแควร์ อุบลราชธานี(Drive Thru 24hr)
  • สาขาเซ็นทรัลพลาซา อุบลราชธานี
  • สาขาเยส บางพลี
  • สาขาลา ฟลอร่า ภูเก็ต
  • สาขาดิ อเวนิว พัทยา
  • สาขาเจ็ท อยุธยา
  • สาขาชาเลนเจอร์ ฮอลล์ เมืองทองธานี
  • สาขาเชียงใหม่ ไนท์บาซาร์
  • สาขาเซียร์ รังสิต
  • สาขาแปซิฟิก พาร์ค ศรีราชา
  • สาขาพันธุ์ทิพย์ งามวงศ์วาน
  • สาขาฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต
  • สาขาแฟรี่ พลาซ่า ขอนแก่น
  • สาขาเซ็นทรัลเฟสติวัล ภูเก็ต
  • สาขามินิสยาม บางละมุง
  • สาขาเมเจอร์ฯ รังสิต
  • สาขาเมเจอร์ฯ อิมพิเรียล สำโรง
  • สาขารอยัล การ์เด้น พัทยา
  • สาขาลิโด้ พัทยา
  • สาขาลีการ์เด้นท์ หาดใหญ่
  • สาขาเทสโก้ โลตัส ภูเก็ต
  • สาขาเทสโก้ โลตัส ศรีนครินทร์
  • สาขาสายลม พาวิลเลี่ยน หัวหิน
  • สาขาหาดเฉวง เกาะสมุย
  • สาขาหาดป่าตอง ภูเก็ต
  • สาขาหาดละมัย เกาสมุย
  • สาขาแหลมทอง ระยอง
  • สาขาอมตะนคร
  • สาขาอยุธยาปาร์ค
  • สาขาอิมพิเรียล สำโรง
  • สาขาอิมแพค เมืองทองธานี
  • สาขาเอสโซ่ บางนา-ตราด กม. 6.5
  • สาขาอิมส์ ท่าแพ เชียงใหม่
  • สาขาเอ็ม พาร์ค รังสิต คลอง 3
  • สาขาเอสพลานาด รัตนาธิเบศร์
  • สาขาพีทีที พระราม 2 กม.35 สมุทราคร
  • สาขาเซ็นทรัลพลาซา พิษณุโลก ชั้น 1
  • สาขาเซ็นทรัลพลาซา ลำปาง ชั้น 1
  • สาขา พอร์โต้ ชิโน่ พระราม 2 กม.25 สมุทราคร
  • สาขาไอบิส-อเวนิว นครศรีธรรมราช (Drive Thru 24hr)
  • สาขาเมกะ บางนา (main zone)
  • สาขาเมกะ บางนา (ikea ชั้น 2)
  • สาขาเซ็นทรัลพลาซา อุดรธานี ชั้น 1 ฝั่งโรงแรมเซ็นทารา
  • สาขาหัวหิน ข้างโรงแรมสิริน

ต้นกำเนิดหมีพูห์ (Winnie-the-Pooh)




ต้นกำเนิดหมีพูห์ (Winnie-the-Pooh)
  ประมาณเดือนสิงหาคม ในปี ค.ศ. 1914 ซึ่งอยู่ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 Harry Colebourn สัตวแพทย์ชาวคานาดา ทำงานประจำที่ Fort Garry Horse ใน Winnipeg ได้ถูกส่งตัวไปประจำการที่อังกฤษ ขณะเดินทางไปอังกฤษ ขบวนรถไฟที่เขานั่งไปต้องหยุดจอดที่ White River ใน Ontario เพื่อเปลี่ยนขบวนใหม่ ระหว่างนั้นเขาได้เห็นชายคนหนึ่งกับลูกหมีสีดำ ณ บริเวณชานชาลาของสถานีรถไฟ โดยที่ลูกหมีตัวนั้นถูกผูกกับที่เท้าแขนของเก้าอี้ที่ชายคนนั้นนั่งอยู่ หลังจากที่ Harry Colebourn พูดคุยกับชายคนนั้นทำให้เขารู้ว่า ชายคนนั้นเป็นนักล่าสัตว์ เขาจึงขอซื้อลูกหมีตัวนั้นในราคา 20 เหรียญสหรัฐ และตั้งชื่อให้มันว่า Winnie เขาได้นำ Winnie ไปอยู่กับเขาที่กองทัพด้วย ซึ่งทุกคนในกองทัพก็ถือว่า Winnie เป็นสัตว์นำโชค   
ต่อมาเดือนธันวาคม ในปีเดียวกัน กองทัพที่ Harry Colebourn ประจำการอยู่ ต้องย้ายกำลังพลไปที่ประเทศฝรั่งเศส Harry Colebourn ได้ฝาก Winnie ไว้ที่สวนสัตว์ที่กรุงลอนดอน และเขาคาดการณ์ว่าประมาณ 2 สัปดาห์เขาคงจะเสร็จภารกิจ และกลับมารับ Winnie ได้ แต่เหตุการณ์ไม่ได้เป็นดังที่เขาคิดไว้ สงครามสงบประมาณปี ค.ศ. 1918 Harry Colebourn กลับมาที่สวนสัตว์อีกครั้งเพื่อมารับ Winnie แต่เขาพบว่า Winnie อยู่อย่างมีความสุข ณ สวนสัตว์แห่งนี้ ทั้งคนเลี้ยงและคนที่มาเที่ยวในสวนสัตว์ รักมันมาก เขาจึงตัดสินใจปล่อยให้ Winnie อยู่ที่สวนสัตว์ตามเดิม และมาเยี่ยม Winnie เสมอเมื่อมีโอกาส จนกระทั่ง Winnie เสียชีวิตลงเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม ปี ค.ศ.1934 ส่วน Harry Colebourn ได้กลับมาประจำการอยู่ที่ทำงานเก่าของเขา Fort Garry Horse ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1921 โดยทำหน้าที่เป็นสัตวแพทย์ ประจำกองทัพ จนกระทั่งเขาเสียชีวิตเมื่อปี ค.ศ. 1947
 



ใน ช่วงที่ Winnie ยังมีชีวิตอยู่ในสวนสัตว์ Winnie มีชื่อเสียงมาก อยู่มาวันหนึ่งประมาณปี ค.ศ. 1925 Christoper Robin เด็กชายวัย 5 ขวบได้มาเที่ยวเล่นในสวนสัตว์แห่งนี้ ทันทีที่ Christopher Robin พบกับ Winnie เขาก็เกิดความรักและประทับใจใน Winnie มาก จนถึงกับเปลี่ยนชื่อตุ๊กตาหมีที่ได้จากเพื่อนของพ่อของเขาจาก Edward มาเป็นชื่อ Winnie และความรักของ Christoper Robin ใน Winnie นี่เองที่ไปจุดประกายความคิดของ A.A. Milne (Alan Alexander Milne) พ่อของ Christopher Robin ซึ่งเป็นนักเขียนหนังสือและบทกลอน ให้แต่งนิทานเรื่องเกี่ยวกับ Winnie และเพื่อนขึ้นมา โดยชื่อของหมีในนิทานของเขามีชื่อว่า "Winnie-the-Pooh" โดยคำว่า Winnie มาจากตุ๊กตาหมีของลูกชายของเขาและหมี Winnie ในสวนสัตว์นั่นเอง ส่วนคำว่า Pooh มาจากชื่อของหงส์ที่อาศัยอยู่ในบริเวณฟาร์มของเขา (Cotchford Farm อยู่ในบริเวณป่า Ashdown ที่ Sussex ประเทศ England)
นิทานของ เขาจะเล่าถึงการผจญภัยของ Christopher Robin กับ Winnie รวมทั้งสัตว์ที่เป็นเพื่อนของเขาในป่า โดยที่ลักษณะนิสัย ของตัวละครสัตว์ตัวอื่นๆ เช่น Eeyore, Piglet, Tigger, Kanga และ Roo มาจากเหล่าตุ๊กตาสัตว์ของ Christoper Robin ลูกชายของเขา ส่วนลักษณะนิสัยของตัวละครสัตว์ Rabbit และ Owl มาจากสัตว์ที่อาศัยในบริเวณฟาร์ม และภาพประกอบของนิทานทั้งหมด เขียนโดย E. H. Shepard. 



ปัจจุบันตุ๊กตาของ Christopher Robin ถูกเก็บรักษาไว้ที่ Donnell Library Center ซึ่งเป็นห้องสมุดสาขาหนึ่งของ New York Public Library

วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา

วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา

วันวิสาขบูชา

     ความหมาย คำว่า "วิสาขบูชา" หมายถึงการบูชาในวันเพ็ญเดือน ๖   วิสาขบูชา ย่อมาจาก " วิสาขปุรณมีบูชา " แปลว่า " การบูชาในวันเพ็ญเดือนวิสาขะ " ถ้าปีใดมีอธิกมาส คือ มีเดือน ๘ สองหน ก็เลื่อนไปเป็นกลางเดือน ๗
     ความสำคัญ วันวิสาขบูชา เป็นวันสำคัญยิ่งทางพระพุทธศาสนา เพราะเป็นวันที่พระพุทธเจ้าประสูติ คือเกิด  ได้ตรัสรู้ คือสำเร็จ  ได้ปรินิพพาน คือดับขันธ์ เกิดขึ้นตรงกันทั้ง ๓ คราว คือ  


















 ๑. เมื่อเจ้าชายสิทธัตถะ ประสูติที่พระราชอุทยานลุมพินีวัน ระหว่างกรุงกบิลพัสดุ์กับเทวทหะ เมื่อเช้าวันศุกร์ ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๖ ปีจอ ก่อนพุทธศักราช ๘๐ ปี


 












 ๒. เมื่อเจ้าชายสิทธัตถะ ตรัสรู้ เป็นพระพุทธเจ้าเมื่อพระชนมายุ ๓๕ พรรษา ณ ใต้ร่มไม้ศรีมหาโพธิ์ ฝั่งแม่น้ำเนรัญชรา ตำบลอุรุเวลาเสนานิคม ในตอนเช้ามืดวันพุธ ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๖ ปีระกา ก่อนพุทธศักราช ๔๕ ปี หลังจากออกผนวชได้ ๖ ปี ปัจจุบันสถานที่ตรัสรู้แห่งนี้เรียกว่า พุทธคยา เป็นตำบลหนึ่งของเมืองคยา แห่งรัฐพิหารของอินเดีย

 












  ๓. หลังจากตรัสรู้แล้ว ได้ประกาศพระศาสนา และโปรดเวไนยสัตว์ ๔๕ ปี พระชนมายุได้ ๘๐ พรรษา ก็เสด็จดับขันธ์ปรินิพพาน เมื่อวันอังคาร ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๖ ปีมะเส็ง ณ สาลวโนทยาน ของมัลลกษัตริย์ เมืองกุสินารา แคว้นมัลละ (ปัจจุบันอยู่ในเมือง กุสีนคระ) แคว้นอุตตรประเทศ ประเทศอินเดีย

___________________________________________________________________________

ประวัติความเป็นมาของวันวิสาขบูชาในประเทศไทย
   วันวิสาขบูชานี้ ปรากฏตามหลักฐานว่า ได้มีมาตั้งแต่ครั้งกรุงสุโขทัยเป็นราชธานี ซึ่งสันนิษฐานว่า คงจะได้แบบอย่าง มาจากลังกา กล่าวคือ เมื่อประมาณ พ.ศ. ๔๒๐ พระเจ้าภาติกุราช กษัตริย์แห่งกรุงลังกา ได้ประกอบพิธีวิสาขบูชาอย่าง มโหฬาร เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา กษัตริย์ลังกาในรัชกาลต่อ ๆ มา ก็ทรงดำเนินรอยตาม แม้ปัจจุบันก็ยังถือปฏิบัติอยู่
   สมัยสุโขทัยนั้น ประเทศไทยกับประเทศลังกามีความสัมพันธ์ด้านพระพุทธศาสนาใกล้ชิดกันมากเพราะพระสงฆ์ชาวลังกา ได้เดินทางเข้ามาเผยแพร่พระพุทธศาสนา และเชื่อว่าได้นำการประกอบพิธีวิสาขบูชามาปฏิบัติในประเทศไทยด้วย
   ในหนังสือนางนพมาศได้กล่าวบรรยากาศการประกอบพิธีวิสาขบูชาสมัยสุโขทัยไว้ พอสรุปใจความได้ว่า " เมื่อถึงวันวิสาขบูชา พระเจ้าแผ่นดิน ข้าราชบริพาร ทั้งฝ่ายหน้า และฝ่ายใน ตลอดทั้งประชาชนชาวสุโขทัยทั่วทุก หมู่บ้านทุกตำบล ต่างช่วยกันทำความสะอาด ประดับตกแต่งพระนครสุโขทัยเป็นการพิเศษ ด้วยดอกไม้ของหอม จุดประทีปโคมไฟแลดูสว่างไสวไปทั่วพระนคร เป็นการอุทิศบูชาพระรัตนตรัย เป็นเวลา ๓ วัน ๓ คืน พระมหากษัตริย์ และบรมวงศานุวงศ์ ก็ทรงศีล และทรงบำเพ็ญพระราชกุศลต่างๆ ครั้นตกเวลาเย็น ก็เสด็จพระราช ดำเนิน พร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ และนางสนองพระโอษฐ์ต ลอดจนข้าราชการทั้งฝ่ายหน้า และฝ่ายใน ไปยังพระ อารามหลวง เพื่อทรงเวียนเทียนรอบพระประธาน
   ส่วนชาวสุโขทัยชวนกันรักษาศีล ฟังธรรมเทศนา ถวายสลากภัต ถวายสังฆทาน ถวายอาหารบิณฑบาต แด่พระภิกษุ สามเณรบริจาคทรัพย์แจกเป็นทานแก่คนยากจน คนกำพร้า คนอนาถา คนแก่ คนพิการ บางพวกก็ชวนกันสละทรัพย์ ปล่อยสัตว์ ๔ เท้า ๒ เท้า และเต่า ปลา เพื่อชีวิตสัตว์ให้เป็นอิสระ โดยเชื่อว่าจะทำให้คนอายุ ยืนยาวต่อไป "
   ในสมัยอยุธยา สมัยธนบุรี และสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น ด้วยอำนาจอิทธิพลของศาสนาพราหมณ์ เข้าครอบงำประชาชนคนไทย และมีอิทธิพลสูงกว่าอำนาจของพระพุทธศาสนา จึงไม่ปรากฎหลักฐานว่า ได้มีการประกอบพิธีบูชาในวันวิสาขบูชา จนมาถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยรัชกาลที่ ๒ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ (พ.ศ. ๒๓๖๐) ทรงดำริกับ สมเด็จพระสังฆราช (มี) สำนักวัดราชบูรณะ มีพระราชประสงค์จะให้ฟื้นฟู การประกอบพระราชพิธีวันวิสาขบูชาขึ้นใหม่ โดย สมเด็จพระสังฆราช ถวายพระพรให้ทรงทำขึ้น เป็นครั้งแรกในวันขึ้น ๑๔ ค่ำ ๑๕ ค่ำ และวันแรม ๑ ค่ำ เดือน ๖ พ.ศ. ๒๓๖๐ และให้จัดทำตามแบบอย่างประเพณีเดิมทุกประการ เพื่อมีพระประสงค์ให้ประชาชนประกอบการบุญการกุศล เป็นหนทางเจริญอายุ และอยู่เญ็นเป็นสุขปราศจากทุกข์โศกโรคภัย และอุปัทวันตรายต่างๆ โดยทั่วหน้ากัน
   ฉะนั้น การประกอบพิธีในวันวิสาขบูชาในประเทศไทย จึงได้รื้อฟื้นให้มีขึ้นอีกครั้งหนึ่งในรัชสมัย พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ ๒ และถือปฏิบัติมาจวบจนกระทั่งปัจจุบัน
   การจัดงานเฉลิมฉลองในวันวิสาขบูชาที่ยิ่งใหญ่กว่าทุกยุคทุกสมัย คงได้แก่การจัดงานเฉลิมฉลอง วันวิสาขบูชา พ.ศ.๒๕๐๐ ซึ่งทางราชการเรียกว่างาน " ฉลอง ๒๕ พุทธศตวรรษ " ตั้งแต่วันที่ ๑๒ ถึง ๑๘ พฤษภาคม รวม ๗ วัน ได้จัดงานส่วนใหญ่ขึ้นที่ท้องสนามหลวง ส่วนสถานที่ราชการ และวัดอารามต่างๆ ประดับธงทิวและโคมไฟสว่างไสวไปทั่วพระ ราชอาณาจักร ประชาชนถือศีล ๕ หรือศีล ๘ ตามศรัทธาตลอดเวลา ๗ วัน มีการอุปสมบทพระภิกษุสงฆ์รวม ๒,๕๐๐ รูป ประชาชน งดการฆ่าสัตว์ และงดการดื่มสุรา ตั้งแต่วันที่ ๑๒ ถึง ๑๔ พฤษภาคม รวม ๓ วัน มีการก่อสร้าง พุทธมณฑล จัดภัตตาหาร เลี้ยงพระภิกษุสงฆ์วันละ ๒,๕๐๐ รูป ตั้งโรงทานเลี้ยงอาหารแก่ประชาชน วันละ ๒๐๐,๐๐๐ คน เป็นเวลา ๓ วัน ออกกฎหมาย สงวนสัตว์ป่าในบริเวณนั้น รวมถึงการฆ่าสัตว์ และจับสัตว์ในบริเวณวัด และหน้าวัดด้วย และได้มีการปฏิบัติธรรมอันยิ่งใหญ่ อย่างพร้อมเพรียงกัน เป็นกรณีพิเศษ ในวันวิสาขบูชาปีนั้นด้วย
 

ประวัติส่วนตัว

ประวัติส่วนตัว




ชื่อ นางสาวจิราภรณ์  นามไพร   

กำเนิด วันที่ 24 มกราคม 2535

อายุ 22  ปี สีที่ชอบ น้ำเงิน เขียว  แดง

อาหารที่  อะไรที่เป็นเส้นชอบหมดค่ะ

จำนวนพี่น้องทั้งหมด 3 คน  พี่สาวชื่อ นางสาวสุพัตรา  นามไพร

น้องชายชื่อนายอัศวภูม  นามไพร  ดิฉันบุคคลที่ สอง

จบ ม ปลาย มาจาก วิทยาลัยการอาชีพนวมินทราชินีมุกดาหาร

ขณะนี้กำลังศึกาาอยู่ที่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี

คณะบริหารธุรกิจ  สาขาการจัดการอุตสาหกรรม


ประวัติความเป็นมาประเพณีลอยกระทง

ประวัติความเป็นมาประเพณีลอยกระทง

ลอยกระทง (Loi Krathong Day) เป็นประเพณีของไทยที่ปฏิบัติสืบต่อกันมาแต่โบราณ งานลอยกระทงเริ่มทำตั้งแต่ กลางเดือน 11 ถึงกลางเดือน 12 ซึ่งเป็นฤดูน้ำหลาก น้ำจะเต็มสองฝั่งแม่น้ำ ที่นิยมมากคือ ช่วงวันเพ็ญเดือน 12 เพราะพระจันทร์เต็มดวง ทำให้แม่น้ำใสสะอาด แสงจันทร์ส่องเวลากลางคืน เป็นบรรยากาศที่สวยงาม เหมาะแก่การลอยกระทง
 เดิมพิธีลอยกระทงเรียกว่า พระราชพิธีจองเปรียงชักโคม
ลอยโคม ซึ่งเป็นพิธีของพราหมณ์ เพื่อบูชาพระเป็นเจ้าทั้งสาม คือ พระอิศวร พระนารายณ์ และพระพรหม ครั้นคนไทยรับนับถือพระพุทธศาสนา ก็ทำพิธียกโคมเพื่อบูชาพระบรมสารีริกธาตุ พระจุฬามณี ณ สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ลอยโคมบูชาพระพุทธบาท ณ หาดทรายแม่น้ำนัมมทานที ประเทศอินเดีย

การลอยกระทง ตามสายน้ำนี้ นางนพมาศ สนมเอกของพระร่วงเจ้ากรุงสุโขทัย คิดทำกระทงรูปดอกบัว และรูปต่างๆถวาย พระร่วงทรงให้ลอยกระทงตามสายน้ำไหล ในหนังสือ ตำรับท้าวศรีจุฬาลักษณ์ พระร่วงตรัสว่า "แต่นี่สืบไปเบื้องหน้า โดยลำดับกษัตริย์ในสยามประเทศ ถึงกาลกำหนดนักขัตฤกษ์วันเพ็ญเดือน 12 ให้ทำโคมลอย เป็นรูปดอกบัวอุทิศสักการบูชาพระพุทธบาทนัมฆทานที ตราบเท่ากัลปาวสาน"
ครั้นถึงสมัยรัตนโกสินทร์ มีการทำกระทงขนาดใหญ่และสวยงาม ดังพระราชพงศาวดารกรุงรัตนโกสินทร์ ของเจ้าพระยาทิพาราชวงศ์ กล่าวไว้ว่า

   "ครั้นมาถึงเดือน 12 ขึ้น 14 ค่ำ 15 ค่ำ แรมค่ำหนึ่งพิธีจองเปรียงนั้น เดิมได้โปรดให้ขอแรง พระบรมวงศานุวงศ์ฝ่ายหน้า ฝ่ายใน และข้าราชการที่มีกำลังพาหนะมาทำกระทงใหญ่ ผู้ถูกเกณฑ์ต่อเป็นถังบ้าง ทำเป็นแพหยวกบ้าง กว้าง 8 ศอกบ้าง 9 ศอกบ้าง กระทงสูงตลอดยอด 10 ศอก 11 ศอก ทำประกวดประขันกันต่างๆ ทำอย่างเขาพระสุเมรุทวีปทั้ง 4 บ้าง และทำเป็นกระจาดชั้นๆบ้าง วิจิตรไปด้วยเครื่องสด คนทำก็นับร้อย คิดในการลงทุนทำกระทงทั้งค่าเลี้ยงคนและพระช่าง เบ็ดเสร็จก็ถึง 20 ชั่งบ้าง ย่อมกว่า 20 ชั่งบ้าง"
    ปัจจุบันประเพณีลอยกระทง มีการจัดงานกันแทบทุกจังหวัด ถือเป็นงานประจำปีที่สำคัญ โดยเฉพาะ ที่จังหวัดเชียงใหม่ มีการจัดขบวนแห่กระทงใหญ่ กระทงเล็ก มีการประกวดกระทง และประกวดธิดางามประจำกระทงด้วย
     ส่วนการลอยโคม ชาวบ้านทางภาคเหนือและภาคอีสานยังนิยมทำกัน ชาวบ้านจะนำกระดาษ มาทำเป็นโคมขนาดใหญ่สีต่างๆ ถ้าลอยตอนกลางวัน จะทำให้โคมลอยโดยใช้ควันไฟ ถ้าเป็นเวลากลางคืน ก็จะใช้คบจุด ที่ปากโคม ให้ควันพุ่งเข้าในโคม ทำให้ลอยไปตามกระแสลมหนาว เวลากลางคืนแลเห็นแสงไฟโคม บนท้องฟ้า พร้อมกับแสงจันทร์และดวงดาวสวยงามมากทีเดียว




เรื่องน่ารู้ใน วันลอยกระทง
คติที่มาเกี่ยวกับวันลอยกระทง
คติที่มาเกี่ยวกับวันลอยกระทงมีอยู่หลายตำนาน ดังนี้
          1. การลอยกระทง เพื่อขอขมาแก่พระแม่คงคา
          2. การลอยกระทง เพื่อบูชาพระผู้เป็นเจ้าตามคติพราหมณ์ คือบูชาพระนารายณ์ซึ่งบรรทมสินธุ์อยู่ในมหาสมุทร
          3. การลอยกระทง เพื่อต้อนรับพระพุทธเจ้า ในวันเสด็จกลับจากเทวโลก เมื่อครั้งเสด็จไปจำพรรษาอยู่บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เพื่อทรงเทศนาอภิธรรมโปรดพระพุทธมารดา
          4. การลอยกระทง เพื่อบูชาพระพุทธบาท ของพระพุทธเจ้า ที่หาดทรายริมแม่น้ำนัมมทานที เมื่อคราวเสด็จไปแสดงธรรมโปรดในนาคพิภพ
          5. การลอยกระทง เพื่อบูชาพระจุฬามณีบนสวรรค์ ซึ่งเป็นที่บรรจุพระเกศาของพระพุทธเจ้า
          6. การลอยกระทง เพื่อบูชาท้าวพกาพรหม บนสวรรค์ชั้นพรหมโลก
          7. การลอยกระทง เพื่อบูชาพระอุปคุตตะเถระ ซึ่งบำเพ็ญเพียรบริกรรมคาถาอยู่ในท้องทะเลลึกหรือสะดือทะเล ประวัติการลอยกระทงในเมืองไทย
          การลอยกระทงในเมืองไทย มีมาตั้งแต่ครั้งสุโขทัย เรียกว่า การลอยพระประทีป หรือลอยโคม เป็นงานนักขัตฤกษ์รื่นเริงของประชาชนทั่วไป ต่อมานางนพมาศหรือท้าวศรีจุฬาลักษณ์สนมเอกของพระร่วง ได้คิดประดิษฐ์ดัดแปลงเป็นรูปกระทงดอกบัวแทนการลอยโคม การลอยกระทงหรือลอยโคมในสมัยนางนพมาศ กระทำเพื่อเป็นการสักการะรอยพระพุทธบาทที่แม่น้ำนัมมทานที ซึ่งเป็นแม่น้ำสายหนึ่งอยู่ในแคว้นทักขิณาบถของประเทศอินเดีย ปัจจุบันเรียกว่า แม่น้ำเนรพุททา

การลอยกระทงในปัจจุบัน
          การลอยกระทงในปัจจุบัน ยังคงรักษารูปแบบเดิมเอาไว้ได้ตามสมควร เมื่อถึงวันเพ็ญพระจันทร์เต็มดวงในเดือน 12 ชาวบ้านจะจัดเตรียมทำกระทงจากวัสดุที่หาง่ายตามธรรมชาติ เช่น หยวกกล้วยและดอกบัว นำมาประดิษฐ์เป็นกระทงสวยงาม ปักธูปเทียนและดอกไม้เครื่องสักการบูชา ก่อนทำการลอยในแม่น้ำก็จะอธิษฐานในสิ่งที่มุ่งหวัง พร้อมขอขมาต่อพระแม่คงคา
ตามคุ้มวัดหรือสถานที่จัดงานหลายแห่ง มีการประกวดกระทง ประกวดนางนพมาศ และมีมหรสพสมโภชในตอนกลางคืน นอกจากนั้นยังมีการจุดดอกไม้ไฟ พลุ ตะไล ซึ่งในการเล่นต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ วัสดุที่นำมาใช้กระทง ควรเป็นของที่สามารถย่อยสลายได้ง่ายตามธรรมชาติ

เหตุผลของการลอยกระทง
สรุปเหตุผลของการลอยกระทงในประเทศไทยดังนี้
          1. เพื่อขอขมาแม่คงคา เพราะได้อาศัยนำท่านกินและใช้ และอีกประการหนึ่งมนุษย์มักจะทิ้งและถ่ายสิ่งปฏิกูลลงไปในนำด้วย
          2. เพื่อสักการะรอยพระพุทธบาทนัมมทานที ซึ่งประพุทธเจ้าทรงประทับรอยพระบาทประดิาฐานไว้บนหาดทรายที่แม่น้ำนัมมทานที ในประเทศอินเดีย
          3. เพื่อลอยทุกข์โศกโรคภัย และสิ่งไม่ดี คล้ายกับพิธีลอยบาปของพราหมณ์
          4. เพื่อบูชาพระอุปคุต ชาวไทยภาคเหนือให้ความเคารพแกพระอุปคุตอย่างสูง ซึ่งตามตำนานเล่าว่าเป็นพระมหาเถระรูปหนึ่งที่มีอิทธิฤทธิ์มากสามารถปราบพญา มารได้ การลอยกระทงไม่มีพิธีรีตอง เพียงแต่ขอให้มีกระทงจะทำด้วยอะไรก็ได้ เช่น ใบตอง การกล้วย กาบพลับพลึง เปลือกมะพร้าว กระดาษ จุดธูปเทียนปักที่กระทงแล้วอธิษฐานตามที่ตนปรารถนา เสร็จแล้วจึงลอยไปที่แม่นำลำคลอง


     การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดเทศกาล "สีสันแห่งสายน้ำ มหกรรมลอยกระทง" เพื่อ ส่งเสริมการท่องเที่ยวทางน้ำตลอดทั้งเดือนพฤศจิกายน นอกจากจะมีกิจกรรมเด่น ในหลายพื้นที่ เช่น งานลอยกระทงกรุงเทพมหานคร, ประเพณีลอยกระทงเผาเทียนเล่นไฟ จังหวัดสุโขทัย, ประเพณียี่เป็ง จังหวัดเชียงใหม่, ประเพณีลอยกระทงสายไหลประทีปพันดวงฯ จังหวัดตาก และประเพณี ลอยกระทงตามประทีป จังหวัดพระนครศรีอยุธยา นอกจากนี้แล้วยังเป็นการส่งเสริมประชาสัมพันธ์งานประเพณีลอยกระทงให้เป็น สินค้าทางการท่องเที่ยวในระดับนานาชาติ (World Events) เพื่อสร้างแรงจูงใจในการเดินทางของนักท่องเที่ยวตลอดเดือนต่อไป

วัตถุประสงค์

๑. เพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์และส่งเสริมให้เกิดการมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์และ ฟื้นฟู ประเพณี อันดีงามของไทย(โดยเฉพาะประเพณีลอยกระทงของแต่ละท้องถิ่น) ไว้สืบทอดต่อไป
๒. เพื่อส่งเสริมให้งานประเพณีลอยกระทง เป็นสินค้าทางการท่องเที่ยว โดยสามารถนำเสนอในรายการนำเที่ยวเป็นประจำทุกปี ในอนาคตอย่างยั่งยืน
๓. เพื่อเพิ่มศักยภาพการท่องเที่ยวและรายได้ พร้อมทั้งขยายวันพักของนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ
๔. เพื่อกระตุ้นให้เกิดกระแสการเดินทางท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวชาวไทย และชาวต่างประเทศในช่วงเทศกาลประเพณีลอยกระทง และการท่องเที่ยวทางน้ำตลอดเดือนพฤศจิกายน

 


ประวัติความเป็นมาของ วันวาเลนไทน์

ประวัติความเป็นมาของ วันวาเลนไทน์

ทุก ๆ ปีเมื่อถึงเดือนกุมภาพันธ์ ดอกกุหลาบสีแดง การ์ดอวยพร ของขวัญ และช็อกโกแลต จะถูกส่งอวยพรถึงกันและกัน ระหว่างคนที่มีความรักต่อกัน ไม่ใช่เพียงแต่คนหนุ่มสาว แต่ยังรวมถึงคนในครอบครัว หรือมิตรสหาย เพราะในเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งนับเอาวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ของทุกปีเป็น วันแห่งความรัก หรือ วันวาเลนไทน์
ชื่อของ วาเลนไทน์ เข้ามาเกี่ยวข้องกับ วันแห่งความรัก นี้ได้อย่างไร ? และทำไมเดือนกุมภาพันธ์ จึง เป็นเดือนแห่งความรัก ?
ประวัติดั้งเดิมของ วันวาเลนไทน์ ซึ่งเป็น วันแห่งความรัก เกี่ยวพันทั้งกับประเพณีของชาวคริสเตียน และประเพณีดั้งเดิมของชาวโรมัน ที่สืบทอดกันมาเป็นเวลายาวนาน ตามความรับรู้ของชาวคริสต์ วันวาเลนไทน์ มีเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับนักบุญที่ชื่อ วาเลนไทน์ หรือ วาเลนตินัส อย่างน้อย 3 คน ซึ่งทุกคนเสียสละเพื่อเพื่อนมนุษย์ทั้งสิ้น
ตำนานหนึ่งเล่าว่า วาเลนไทน์ เป็นนักบวชที่มีชีวิตอยู่ในกรุงโรม ในช่วงศตวรรษที่ 3 ของปีคริสตศักราช ในช่วงที่จักรพรรดิ คลอดิอุส 2 ปกครองกรุงโรม พระองค์เห็นว่า ผู้ชายที่เป็นโสด จะทำหน้าที่ทหารได้ดีกว่าชายที่มีภรรยาและครอบครัว พระองค์จึงทรงออกกฎหมายห้ามมิให้ผู้ชายในวัยหนุ่มแต่งงาน เพื่อที่จะกะเกณฑ์ชายหนุ่มที่ยังไม่แต่งงานเหล่านี้มาเป็นทหาร นักบวช วาเลนไทน์ ไม่เห็นด้วยกับจักรพรรดิ คลอดิอุส และเห็นว่าเป็นกฎหมายที่ไม่เป็นธรรม จึงยังคงลักลอบทำพิธีแต่งงานให้กับคนหนุ่มสาวที่มีความรักต่อไป เมื่อการกระทำของ นักบวชวาเลนไทน์ ล่วงรู้ถึงหูของจักรพรรดิ คลอดิอุส พระองค์จึงสั่งให้จับกุมและให้ประหาร นักบวชวาเลนไทน์ เสีย
อีกตำนานหนึ่งเล่าว่า นักบวชวาเลนไทน์ ถูกประหารเพราะพยายามที่จะช่วยเหลือชาวคริสเตียนให้หนีออกจากคุกของพวกโรมัน ซึ่งเวลานั้น ผู้ที่เป็นคริสเตียนจะมีความผิด ต้องถูกนำไปคุมขัง และทรมานด้วยการเฆี่ยนตี




ตำนานที่สามเล่ากันว่า นักบวช วาเลนไทน์ คือผู้ที่ส่ง บัตร “ วาเลนไทน์ ” เป็นคนแรก ในขณะที่นักบวช วาเลนไทน์ ถูกจำคุกอยู่นั้น เขาตกหลุมรักกับหญิงสาวคนหนึ่ง นางเป็นลูกสาวของผู้คุมที่คุกแห่งนั้น ซึ่งนางเข้าไปเยี่ยมในระหว่างที่นักบวชผู้นี้กำลังนอนป่วย ก่อนที่จะถูกประหาร เขาได้เขียนจดหมายฉบับหนึ่งถึงนาง และลงท้ายจดหมายว่า “ จาก วาเลนไทน์ ของเธอ ” ซึ่งเป็นวลีที่ยังใช้กันมาจนถึงทุกวันนี้ แม้ว่าความจริงเกี่ยวกับนักบวช วาเลนไทน์ จะเป็นตำนานที่ค่อนข้างสับสน แต่ทุกตำนานก็เป็นเรื่องของความเห็นอกเห็นใจในเพื่อนมนุษย์ ความกล้าหาญ และที่สำคัญที่สุดคือเรื่องของ ความรัก จึงไม่ใช่เรื่องแปลก ที่ในยุคกลางของยุโรป(ประมาณศตวรรษที่ 5 ถึงศตวรรษที่ 16 ของปีคริสตศักราช) นักบุญ วาเลนไทน์ จะเป็นหนึ่งในนักบุญที่ได้รับความศรัทธามากที่สุดโดยเฉพาะอย่างยิ่งในอังกฤษ และฝรั่งเศส
ขณะที่บางคนเชื่อว่า วันวาเลนไทน์ คือวันรำลึกถึงการเสียชีวิต หรือวันทำพิธีฝังศพของนักบุญ วาเลนไทน์ ในกลางเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งอาจจะเริ่มมาตั้งแต่ประมาณปีคริสตศักราช 270 ในบางความเชื่อกล่าวว่า พิธีแสดงความรักต่อนักบุญ วาเลนไทน์ ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ เป็นประเพณีที่เพื่อแสดงความเป็น คริสเตียน ของนักบวชในศาสนาคริสต์ เพื่อที่จะมาทดแทนเทศกาล ลูเปอร์คาเลีย (Lupercalia) ของชาวโรมันในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ที่แสดงความรักต่อเทพเจ้าฟอนนัสของชาวโรมัน ซึ่งเป็นเทพเจ้าแห่งเกษตรกรรม และเทพเจ้ารอมมิวนัส และเทพเจ้าเรมัส เทพเจ้าผู้สร้างกรุงโรม
พิธีเริ่มต้นโดยพวกสมาชิกของ ลูเปอร์ซิ และนักบวชโรมัน ไปชุมนุมกันที่ถ้ำอันศักดิ์ของพวกเขา ซึ่งเป็นที่กำเนิดของเทพเจ้า รอมมิวนัส และ เรมัส ที่เชื่อกันว่าเป็นผู้สร้างกรุงโรม และเติบโตขึ้นจากการเลี้ยงดูและดื่มนมจากหมาป่า หรือ ลูปา พวกนักบวชโรมันจะทำการฆ่าแพะบูชายัญเพื่อความอุดมสมบูรณ์ และฆ่าสุนัขบูชายัญเพื่อความบริสุทธิ์
จากนั้นเด็กหนุ่ม ๆ จะทำการแล่หนังของแพะออกเป็นชิ้นยาว ๆ นำไปจุ่มในเลือดศักดิ์สิทธิ์ ถือไปตามถนน นำไปแตะที่ตัวผู้หญิง และถือไปตามท้องไร่ท้องนาต่าง ๆ ผู้หญิงโรมันจะเต็มใจให้นำเอาหนังแกะสดที่ชุ่มไปด้วยเลือดมาแตะตามตัว เพราะเชื่อว่าจะนำเอาความอุดมสมบูรณ์มาสู่กรุงโรม จากนั้นในรุ่งขึ้นอีกวัน หญิงสาวชาวเมืองจะพากันเอาชื่อของนางใส่ลงในหม้อขนาดใหญ่ เพื่อให้ชายโสดทั้งหลายมาเลือกชื่อพวกนางจากหม้อใบนี้ และก็เป็นคู่กันไปตลอดทั้งปี ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะลงเอยด้วยการแต่งงานกัน สันตะปาปา เกลาเซียส ได้ประกาศเอาวันที่ 14 กุมภาพันธ์ เป็นวันนักบุญวาเลนไทน์ เมื่อประมาณปีคริสตศักราช 498 การเลือกคู่แบบโรมัน กลายเป็นสิ่งที่ “ ไม่ใช่คริสเตียน ” และผิดกฎ ต่อมาในสมัยยุคกลางของยุโรป ได้กลายเป็นความเชื่อของคนในอังกฤษและฝรั่งเศสว่า 14 กุมภาพันธ์ เป็นการเริ่มต้นฤดูผสมพันธุ์ของ “ นก ” แล้วก็กลายเป็น วันวาเลนไทน์ ซึ่งเป็น วันแห่งความรัก เรื่องราวของ วาเลนไทน์ ที่เก่าแก่ที่สุดซึ่งยังมีหลักฐานหลงเหลือมาจนถึงปัจจุบัน คือบทกวีที่เขียนโดย ชาร์ลส ขุนนาง แห่ง ออร์ลีนส์ ซึ่งเขียนให้กับภรรยาของเขาขณะถูกคุมขังในหอคอยกรุงลอนดอน เนื่องจากถูกจับกุมในระหว่างสงคราม อะจินคอร์ต บทกวีชิ้นนี้เขียนขึ้นเมื่อปีคริสตศักราช 1415 ถูกเก็บไว้ในห้องสมุด บริติช แห่งกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ และหลายปีต่อมา เชื่อกันว่า พระเจ้าเฮนรี่ที่ 5 ได้จ้างวานให้กวีที่ชื่อ จอห์น ไลด์เกต ประพันธ์บทกวี วาเลนไทน์ ให้กับ แคทเธอรีน แห่ง วาโลอิส ในอังกฤษ เทศกาล วันวาเลนไทน์ ได้รับความนิยม มาตั้งแต่ราวศตวรรษที่ 17 ของปีคริสตศักราช
คิวปิด หรือ กามเทพ ซึ่งเป็นเทพเจ้าแห่งความรักของชาวโรมัน ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ อันหนึ่งของ วันวาเลนไทน์ เนื่องจาก คิวปิด เป็นบุตรของเทพธิดา วีนัส ซึ่งเป็นเทพธิดาแห่งความรัก และความงามของชาวโรมัน และมักจะปรากฏอยู่บน บัตรอวยพร วันวาเลนไทน์ อยู่เสมอ กลางศตวรรษที่ 18 เป็นเรื่องปกติธรรมดาสำหรับผู้ที่เป็นคนรักกัน หรือ แม้แต่มิตรสหาย ทุกชั้นชน ที่จะแลกเปลี่ยนของขวัญชิ้นเล็ก ๆ หรือส่งจดหมายถึงกัน
จนถึงยุคปัจจุบัน ก็ได้กลายเป็นการส่งบัตรอวยพร การซื้อของขวัญ และการมอบขนมและช็อกโกแลต ให้แก่กัน และจนถึงวันนี้การส่งอีเมล์ และ เอสเอ็มเอส เพื่ออวยพรเนื่องใน วันวาเลนไทน์ ก็อาจจะเป็นสื่อที่ได้รับความนิยมสูงสุดอีกสื่อหนึ่ง
สถิติของยุโรปและอเมริกา พบว่า ประมาณร้อยละ 85 ของผู้ที่ใช้จ่ายเพื่อ วันวาเลนไทน์ จะเป็นสตรี ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นค่าใช้จ่ายในเรื่องของ บัตรอวยพร ซึ่งก็ไม่ได้จำกัดว่าจะเป็นการอวยพรเฉพาะคู่รักเท่านั้น เพราะในวันวาเลนไทน์นี้จะสามารถแสดงออกความรักต่อใครก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นในครอบครัว เพื่อนฝูง หรือแม้กระทั่งเพื่อนร่วมงาน